วิทเนส ลี (Witness Lee) (1905-1997) เป็นผู้ร่วมงานของวอท์ชแมน นี สานต่อการปฏิบัติที่วอท์ชแมน นี ได้รับจากองค์พระผู้เป็นเจ้าและส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรือง ได้ปลดปล่อยการเปิดเผยที่สูงส่ง เกี่ยวกับแผนการบริหารที่นิรันดร์ของพระเจ้า ที่อยู่ในพระคัมภีร์ ได้ชี้แจงว่าเป้าหมายที่สูงสุดแห่งแผนการบริหารของพระเจ้า ก็คือพระเจ้ากลายเป็นมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์กลายเป็นพระเจ้าในด้านชีวิตและนิสัย ก่อรูปเป็นพระกายของพระคริสต์ และสำเร็จสุดยอดเป็นกรุงเยรูซาเล็มใหม่ ซึ่งก็คือการผสมรวมกันแห่งจักรวาลของการเข้าสนิทผสมผสานระหว่างสภาพพระเจ้ากับสภาพมนุษย์ และได้นำการฟื้นฟูในปัจจุบันขององค์พระผู้เป็นเจ้า บรรลุถึงจุดสูงสุดของการเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์ได้ก่อตั้งคริสตจักรขึ้นมาทั้ง 6 ทวีปของโลก มีจำนวนมากกว่า 2,000 แห่ง ซึ่งเป็นการบรรลุถึงจุดสูงสุดแห่งการแผ่ขยาย.

นี่คือคำพูดของพน.ลี ที่กล่าวถึงพน.นี

“สำหรับข้าพเจ้า ช่วง 30 ปีแรกของการดำเนินชีวิตคริสเตียน ข้าพเจ้าได้ทยอยอ่านผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี จนหมด และช่วง 30 กว่าปีต่อมา ซึ่งในช่วงที่อยู่ในการงานของคริสเตียน ข้าพเจ้าได้อ่านทบทวน ผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี อีกครั้งหนึ่ง ได้อ่านประกอบ และอ้างอิง ผลงานประพันธ์เหล่านี้ ข้าพเจ้าได้รับประโยชน์ อย่างอุดมสมบูรณ์ และได้รับพระคุณมากมาย จำต้องใช้ผลงานชิ้นเอก แห่งสิ่งทรงสร้างใหม่ และความเป็นนิรันดร์ของพระเจ้าตรีเอกภาพมาบรรยาย จึงจะบรรยายได้อย่างหมดสิ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านทุกท่านจะได้รับพระเมตตาขององค์พระผู้เป็นเจ้า สามารถยึดศูนย์กลาง เส้นทางและเป้าหมาย แห่งผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี เป็นศูนย์กลางของความเชื่อ และการปฏิบัติ เส้นทางที่วิ่งแข่ง และเป้าหมายที่แสวงหา เพื่อจะร่วมรับพระคุณที่อุดมสมบูรณ์ด้วยกัน แม้ว่าวอท์ชแมน นี จะล่วงหลับไปแล้ว แต่คำพูดของท่านยังไม่สูญหาย แม้ว่า จิ้ง ฟู่ จะจากไปแล้ว วอท์ชแมน ยังคงส่งสำเนียงอยู่ จนกระทั่งดาวประจำรุ่งจะปรากฏ เงามืดแห่งกลางคืนจะสลายไป ด้วยถ้อยคำแนะนำพอสังเขปนี้ จะเป็นการแสดงความอาลัยอาวรณ์ ที่ไม่เสื่อมคลายต่อวอท์ชแมน นี”

การงานแห่งการแผ่ขยายคริสตจักรท้องถิ่นทั้งหลายในประเทศไต้หวันโดยวิทเนส ลี ในเดือนเมษายนของปี 1949 มีวิสุทธิชนประมาณ 500 คน มีความผูกพันอย่างแน่นแฟ้น กับแผ่นดินผืนนี้ ซึ่งเป็นแผ่นดินที่ถูกรักษาไว้ เพื่อการฟื้นฟูของพระเจ้า ภายใต้อำนาจสิทธิ์ขาดของพระองค์ ไม่เร็วเกินไปและไม่ช้าเกินไป คำว่า “พระเจ้าทรงรักมนุษย์โลก” “รีบมาฟังกิตติคุณแท้” “พระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด” ได้ติดไว้ทั่วทุกหนทุกแห่ง เป็นที่ดึงดูดสายตาผู้คนเป็นอย่างมาก เหมือนกับไฟป่าที่รุกลามไปทั่ว ทำให้ใจคนสะเทือนสะท้าน ในปีนั้นไฟแห่งกิตติคุณ ได้เขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ขึ้นตามถนนและตรอกซอยของไต้หวัน ภายในระยะเวลา 5 ปี จำนวนคนของคริสตจักรได้เพิ่มขึ้นถึง 100 เท่า สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้กระทำ โดยการปรนนิบัติ, การฝึกฝน, การแสวงหาหลักความจริง วิสุทธิชนทั้งหลายจึงได้เติบโตขึ้น ในชีวิตคริสตจักรที่ปกติและเต็มไปด้วยนิมิต ปัจจุบันนี้คริสตจักรท้องถิ่นทั้งหลายในประเทศไต้หวันมีหลายร้อยแห่ง มีผู้เชื่อที่ประชุมปกติสม่ำเสมอ ดำเนินชีวิตคริสตจักรที่เป็นพยานให้กับองค์พระผู้เป็นเจ้าทั่วประเทศไต้หวันประมาณ 50,000 คน

บทเรียนชีวิตแห่งหนังสือจดหมายของเปาโล คำนำ ศูนย์กลางที่เด่นชัดที่สุด แห่งหนังสือจดหมายของเปาโล ก็คือแผนการบริหาร แห่งพันธสัญญาใหม่ของพระเจ้า (อฟ.1:10; 3:9; 1ตธ.1:4)

แผนการบริหารที่ศักดิ์สิทธิ์นี้ ก็คือข้อลับลึกของพระเจ้าที่ซ่อนเร้นอยู่ ซึ่งได้เปิดเผยออกมา ในยุคสมัยของพระคุณ (อฟ.3:9, 5; กซ.1:26) ซึ่งก็คือข้อลับลึกของพระเจ้า คือพระคริสต์เป็นการแปรสภาพ ที่เป็นรูปธรรมของพระเจ้า (กซ.2:2, 9) และข้อลับลึกของพระคริสต์ คือคริสตจักรเป็นพระกายของพระคริสต์ (อฟ.3:4; 1:23) เพื่อการเปิดเผยของแผนการบริหารนี้ โครงสร้างที่เป็นพื้นฐาน และอยู่ภายในแห่งผลงานประพันธ์ของเปาโล ก็คือพระเจ้าได้แจกจ่ายตัวของพระองค์เอง เข้าสู่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรร, ทรงช่วยไถ่ และให้บังเกิดใหม่ เพื่อเป็นชีวิต, การหล่อเลี้ยงแห่งชีวิต และทุกสิ่งของเขา ทำให้เขาทั้งหลายกลายเป็น บุตรทั้งหลายของพระเจ้า และอวัยวะของพระคริสต์ ในตรีเอกภาพ – พระบิดา, พระบุตร, และพระวิญญาณ – ของพระองค์ (รม.8:29; อฟ.5:30)

 

ในฐานะที่เป็นบุตรทั้งหลายของพระองค์ เขาทั้งหลายถูกก่อสร้างเข้าด้วยกัน กลายเป็นที่ประทับของพระองค์ ในวิญญาณ (อฟ.2:21-22) ในฐานะที่เป็นอวัยวะของพระคริสต์ เขาทั้งหลายได้ผสมผสานเข้าด้วยกัน กลายเป็นพระกายของพระองค์ ในชีวิตอันศักดิ์สิทธิ์ (1กธ.12:12-13) ดังนั้นเขาทั้งหลายจึงได้เข้าสนิท กับพระองค์ในการเข้าสนิทที่เป็นฝ่ายวิญญาณ และเป็นอินทรียภาพ (1กธ.6:17) มีส่วนในฐานะแห่งบุตร อันศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ (อฟ.1:5) และรับสุขความอุดมสมบูรณ์ อันหาที่สุดไม่ได้ที่อยู่ในพระคริสต์ (อฟ.3:8) กลายเป็นความบริบูรณ์ของพระองค์ (อฟ.3:19) และอยู่ในพระคริสต์ กลายเป็นการสำแดงของพระเจ้า โดยพระวิญญาณนั้นตราบชั่วนิรันดร์ สิ่งที่เปิดเผยไว้ ในหนังสือจดหมายทั้ง 14 เล่ม ช่างเป็นแผนการบริหารที่สุดยอดจริงๆ! วิทเนส ลี วันที่ 7 มิถุนายน 1984 แอเนอร์ไฮม์ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา การแปลพระคัมภีร์ได้มีการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง โดยทั่วไปแล้วทุกฉบับที่มีการแปลใหม่ ก็จะสืบทอดความรู้มาจากฉบับก่อนๆ และเปิดหนทางให้กับฉบับอื่นๆ ต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อฉบับที่ถูกแปลใหม่ ได้รับการช่วยเหลือจากฉบับอื่นๆ ที่ถูกแปลออกมาก่อนแล้ว ก็จะเกิดความก้าวหน้าต่อไป พระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ฉบับฟื้นฟูได้เดินตามแบบอย่างในอดีต ที่ฉบับแปลอื่นๆ ได้วางไว้และยังได้อ้างอิง มาจากฉบับที่มีการแปลในอดีตเหล่านั้น พระคัมภีร์ฉบับนี้ ไม่เพียงรวบรวมไว้ซึ่งบทเรียน ที่ได้จากการตรวจสอบสิ่งที่ผู้อื่นได้กระทำไว้ นอกจากนี้ยังพยายาม ที่จะหลีกเลี่ยงอคติ และการวินิจฉัยที่ไม่เที่ยงตรง ซึ่งอยู่ในฉบับอื่นๆ ด้วย พระคัมภีร์ฉบับฟื้นฟูที่ถูกทำขึ้น โดยยึดฉบับอื่นๆ เป็นแนวทางนี้ ได้พยายามที่จะเลือกสรรคำแปลที่ดีที่สุด สำหรับการเปิดเผย ที่อยู่ในพระคำอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อให้การเปิดเผยเหล่านี้ ถูกชี้แจงออกมาเป็นภาษาของเรา ด้วยความเที่ยงตรงที่สุด การแปลพระคัมภีร์ไม่เพียงขึ้นอยู่กับ ความเข้าใจในภาษาดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความเข้าใจที่ถูกต้อง ซึ่งมีต่อการเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ในพระคัมภีร์อีกด้วย

ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ความเข้าใจที่วิสุทธิชน มีต่อพระคัมภีร์อันศักดิ์สิทธิ์นั้น ย่อมมีพื้นฐานอยู่บนแสงสว่าง ที่เขาเหล่านั้นได้รับ และความเข้าใจเหล่านี้ ก็มีการก้าวหน้าไปเรื่อยๆ การสรุปรวมของการเข้าใจเหล่านี้ ได้กลายมาเป็นพื้นฐาน ในการแปลข้อพระคัมภีร์ และการเขียนคำอธิบายในหนังสือเล่มนี้ ดังนั้นข้อพระคัมภีร์และคำอธิบาย ในพระคัมภีร์ฉบับนี้ อาจถือได้ว่าเป็น “การสรุปรวบยอด” ของความเข้าใจ ในการเปิดเผยอันศักดิ์สิทธิ์ ที่วิสุทธิชนทั่วโลกตลอดสองพันปี ที่ผ่านมาได้บรรลุถึง เราหวังว่าพระคัมภีร์ฉบับฟื้นฟู จะถ่ายทอดมรดกที่เราได้รับมานี้ ไปสู่ชนรุ่นหลังต่อไปในอนาคต

 

ในการแปลพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่นั้น เราต้องเลือกเอาสำนวน ต้นฉบับภาษากรีกเท่าที่มีอยู่ มาเป็นพื้นฐาน โดยส่วนใหญ่แล้วพระคัมภีร์พันธสัญญาใหม่ ฉบับฟื้นฟูจะยึดตามเนื้อความ ภาษากรีกของ (Nestle – Aland) ที่อยู่ใน (Novum Testamentum Graece) (ฉบับที่ 26) อย่างไรก็ดี ในการวินิจฉัยหาเนื้อความดั้งเดิม ของพระคัมภีร์แต่ละข้อ ผู้แปลพระคัมภีร์ฉบับฟื้นฟู จะพิจาณาดูเนื้อความส่วนใหญ่ ที่อยู่ในบทและในหนังสือเล่มนั้นๆ ตลอดจนข้อพระคัมภีร์อื่นๆ ในพันธสัญญาใหม่ ที่มีความคล้ายคลึงกัน อย่างรอบคอบ เนื่องจากไม่แน่เสนอไปว่า สำเนาต้นฉบับที่ถูกค้นพบล่าสุด หรือสำเนาต้นฉบับที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดนั้น จะเป็นฉบับที่เที่ยงตรง หรือเชื่อถือได้มากที่สุด

ดังนั้นการเลือกใช้เนื้อความ ของข้อพระคัมภีร์ที่อยู่ในฉบับฟื้นฟู โดยส่วนใหญ่นั้น จะยึดเอาหลักการที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น มาเป็นพื้นฐาน ทั้งนี้หากมีการเลือกใช้ เนื้อความที่ไม่เหมือนกับ เนื้อความของ Nestle – Aland ก็จะมีการระบุไว้ในคำอธิบาย เป็นบางกรณี ส่วนข้อความที่อยู่ในวงเล็บก้ามปูนั้น เป็นข้อความที่ไม่อยู่ใน เนื้อความภาษากรีก แต่ผู้แปลได้เสริมเข้าไปพระคัมภีร์ฉบับฟื้นฟู ยังได้รวบรวมไว้ซึ่งผลงาน จากการค้นคว้าที่ลึกซึ้ง เกี่ยวกับความหมายของเนื้อความ ในภาษาเดิมและพยายาม ที่จะใช้คำที่ตรงประเด็น ง่ายต่อความเข้าใจ และอ่านรู้เรื่องมาอธิบาย ความหมายเหล่านี้ ในกรณีที่ไม่สามารถแปลความหมาย ของภาษากรีกซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิม ออกมาได้ตรงๆ ก็จะมีการชี้แจงไว้ในคำอธิบาย หัวข้อ และโครงร่างของหนังสือแต่ละเล่ม ได้ยึดเอาข้อเท็จจริง ทางประวัติศาสตร์มาเป็นพื้นฐาน และได้แสดงถึงความหมาย ฝ่ายวิญญาณที่อยู่ในหนังสือแต่ละเล่ม คำอธิบายจะเน้นถึงการเปิดเผย ในด้านหลักความจริง, แสงสว่างฝ่ายวิญญาณ และการหล่อเลี้ยงแห่งชีวิต มากกว่าประวัติศาสตร์, ภูมิศาสตร์ และตัวบุคคล ข้อพระคัมภีร์อ้างอิง ก็ไม่เพียงเชื่อมโยงกับข้อพระคัมภีร์ ที่มีข้อความและข้อเท็จจริง ที่คล้ายคลึงกันเท่านั้น แต่ยังเชื่อมโยงกับเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเผยฝ่ายวิญญาณ ที่อยู่ในพระคัมภีร์อีกด้วย

 

ฝ่ายบรรณาธิการ 1 พฤษภาคม 1986 บทประพันธ์ของวอท์ชแมน นี ตามการเปิดเผยของพระคัมภีร์ และการยืนยันของประวัติศาสตร์นั้น ในทุกยุคทุกสมัย พระเจ้ามักจะมีการงานที่พิเศษของพระองค์ บนแผ่นดินโลกในท่ามกลางมนุษย์ ที่พระองค์ทรงเลือกสรรเพื่อพระองค์เอง และเพื่อที่จะสำเร็จการงานที่พิเศษนี้ ในทุกยุคทุกสมัยที่ผ่านมา พระเจ้ามักจะมีบุคคล ที่พระองค์ทรงเลือกสรร และทำการสำเร็จ เพื่อมาตอบสนองความต้องการ ที่พิเศษของพระองค์ ในช่วงกลางของศตวรรษนี้ ขณะที่กิตติคุณของพระเจ้า ได้มาถึงทางตะวันออก พร้อมกับวัฒนธรรมตะวันตกนั้น ก็มีมิชชั่นเนอรีเป็นร้อยเป็นพัน ที่ได้มาถึงประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมเก่าแก่ ตามคำบัญชาของพระเจ้า และได้เพียรพยายามอย่างสุดกำลัง เพื่อกิตติคุณของพระคริสต์ ในท่ามกลางคนเหล่านี้ มีจำนวนไม่น้อยที่มีความรู้อย่างลึกซึ้ง ในด้านวรรณคดีและในด้านฝ่ายวิญญาณ

แต่ทว่าผู้ที่สามารถประกาศ แผนการบริหารของพระเจ้า และข้อลับลึกของพระคริสต์ ได้อย่างชัดเจนและครบถ้วน กลับมีน้อยมาก ภายใต้สภาพการณ์เช่นนี้ ในช่วงเริ่มต้นของศตวรรษที่ 19 หลังจากที่ประเทศจีน เปลี่ยนการปกครองจากระบบศักดินา มาเป็นระบบประชาธิปไตยแล้ว ในท่ามกลางอนุชนมากมาย ที่ได้รับการศึกษาจากวรรณคดี ของพวกตะวันตก พระเจ้าก็ได้ฟื้นฟูอนุชนคนหนึ่ง ที่ชื่อหนี ซู่ จวู่ ขึ้นมา ซึ่งหลังจากที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าแล้ว ก็เปลี่ยนชื่อเป็นหนี จิ้ง ฟู่ มาสำเร็จคำบัญชา แห่งยุคสมัยของพระองค์ หลังจากที่พี่น้องนี ได้รับความรอด ท่านก็ได้รับการดูแล และการเสริมสร้างจากพระเจ้า ในขณะที่ท่านยังเป็นอนุชนนั้น มีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก ในการอธิบายพระคัมภีร์ และคำสอนฝ่ายวิญญาณ ได้รับการต้อนรับอย่างมากมายจากชาวจีน ที่รักและแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า

ในสมัยนั้น ได้เร่งเร้าให้ผู้เชื่ออนุชนมากมาย เกิดผลสะท้อนและ แสวงหาด้วยใจจริง ขณะเดียวกันก็ทำให้ผู้นำของศาสนาคริสต์ ที่อยู่ในประเทศจีน ไม่ว่าจะเป็นชาวจีน หรือชาวต่างชาติ เกิดความหวั่นไหว จนก่อให้เกิดการคัดค้าน และการต่อต้านขึ้นมา ในท่ามกลางศาสนาคริสต์ไม่น้อยเลย พี่น้องนีได้อ่านค้นคว้าพระคัมภีร์ จนมีความชำนาญ และได้รับการช่วยเหลือ จากหนังสืออธิบายพระคัมภีร์ ที่มีชื่อเสียงในช่วงเวลา เกือบสองพันปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่รู้หลักธรรม ที่เป็นตัวอักษรในพระคัมภีร์

ยิ่งกว่านั้นยังรู้ถึงหลักการของหลักความจริงในพระคัมภีร์ ความหมายฝ่ายวิญญาณ ชีวิต และวิญญาณของพระคัมภีร์ ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะอธิบายพระคัมภีร์ หรือเทศนาไม่ว่าโดยปากเปล่า หรือผลงานประพันธ์ ล้วนตามนิมิตอันศักดิ์สิทธิ์ และการเปิดเผยฝ่ายวิญญาณ ที่ท่านได้มองเห็นในพระคัมภีร์ จึงเต็มไปด้วยหลักความจริง, แสงสว่าง, ชีวิตกับวิญญาณ, มีชีวิตชีวา และเป็นไปอย่างอินทรียภาพ แต่ก็เต็มไปด้วยฤทธิ์เดช ที่มาจากพระเจ้า ทำให้ผู้ฟัง และผู้อ่านของท่าน ง่ายที่จะได้รับการดลใจ และได้รับพระคุณ อีกทั้งมีผลสะท้อน ในสิ่งที่ท่านได้ประกาศ และได้พูด สิ่งที่พี่น้องนี ได้ประกาศ และได้เปิดเผย ในตลอดชีวิตของท่าน เมื่อเรียบเรียงประเด็นสำคัญเข้าด้วยกันแล้ว มีทั้งหมด 12 ด้าน ดังต่อไปนี้

  1. เกี่ยวกับ พระเจ้า
  2. เกี่ยวกับ โครงการ (แผนการบริหาร) ที่นิรันดร์ของพระเจ้า
  3. เกี่ยวกับ การกลายเป็นเนื้อหนังของพระเจ้า
  4. เกี่ยวกับ พระคริสต์
  5. เกี่ยวกับ การตายของพระคริสต์
  6. เกี่ยวกับ การเป็นขึ้นของพระคริสต์
  7. เกี่ยวกับ ชีวิตที่นิรันดร์นั้น
  8. เกี่ยวกับ พระวิญญาณนั้น
  9. เกี่ยวกับ การไถ่ของพระคริสต์ และความรอดของพระเจ้า
  10. เกี่ยวกับ ผู้เชื่อ
  11. เกี่ยวกับ คริสตจักร
  12. เกี่ยวกับ กรุงเยรูซาเล็มใหม่

 

สิ่งที่พี่น้องนี ได้ประกาศ และเปิดเผย โดยอ้างอิงพระคัมภีร์ทั้งเล่มนั้น มีความลึกซึ้ง และกว้างขวางเป็นอย่างมาก แต่สามารถสรุปศูนย์กลาง, เส้นทาง, และเป้าหมายได้สิบสองด้าน ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น สำหรับข้าพเจ้า ช่วง 30 ปีแรกของการดำเนินชีวิตคริสเตียน ข้าพเจ้าได้ทยอยอ่าน ผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี จนหมด และช่วง 30 กว่าปีต่อมา ซึ่งในช่วงที่อยู่ในการงานของคริสเตียน

ข้าพเจ้าได้อ่านทบทวน ผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี อีกครั้งหนึ่ง ได้อ่านประกอบ และอ้างอิง ผลงานประพันธ์เหล่านี้ ข้าพเจ้าได้รับประโยชน์ อย่างอุดมสมบูรณ์ และได้รับพระคุณมากมาย จำต้องใช้ผลงานชิ้นเอก แห่งสิ่งทรงสร้างใหม่ และความเป็นนิรันดร์ ของพระเจ้าตรีเอกภาพมาบรรยาย จึงจะบรรยายได้อย่างหมดสิ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผู้อ่านทุกท่านจะได้รับพระเมตตา ขององค์พระผู้เป็นเจ้า สามารถยึดศูนย์กลาง เส้นทางและเป้าหมาย แห่งผลงานประพันธ์ของพี่น้องนี เป็นศูนย์กลางของความเชื่อ และการปฏิบัติ เส้นทางที่วิ่งแข่ง และเป้าหมายที่แสวงหา เพื่อจะร่วมรับพระคุณ ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยกัน แม้ว่าวอท์ชแมน นี จะล่วงหลับไปแล้ว แต่คำพูดของท่านยังไม่สูญหาย แม้ว่า จิ้ง ฟู่ จะจากไปแล้ว วอท์ชแมน ยังคงส่งสำเนียงอยู่ จนกระทั่งดาวประจำรุ่งจะปรากฏ เงามืดแห่งกลางคืนจะสลายไป ด้วยถ้อยคำแนะนำพอสังเขปนี้ จะเป็นการแสดงความอาลัยอาวรณ์ ที่ไม่เสื่อมคลายต่อวอท์ชแมน นี

แผนการบริหารของพระเจ้า ข่าวสารแต่ละตอนของหนังสือเล่มนี้ เป็นข่าวสารที่ปลดปล่อย ในการประชุมพิเศษภาคฤดูร้อน ปี 1964 ที่ลอสแองเจิลลิส ขณะที่เรียบเรียงเป็นหนังสือนั้น ยังคงรักษารูปแบบของการพูดบนเวทีไว้ ดังนั้นผู้เขียนจึงขอร้องให้ผู้อ่าน สนใจความเที่ยงแท้ฝ่ายวิญญาณ ที่พระเจ้าทรงใช้วอร์ทแมนนี และวิสเนสลีในการงานด้านบรรณกิจ คือการเปิดเผยหลักความจริงที่มีอยู่ในพระคัมภีร์ซึ่งเต็มด้วยแสงสว่างแก่เราบุตรทั้งหลายของพระเจ้า โดยเฉพาะการแปลพระคัมภีร์ฉบับฟื้นฟูให้เที่ยงตรง ตามภาษาเดิมพร้อมด้วยคำอธิบายที่เต็มด้วยชีวิต และแสงสว่างเพื่อทุกคนสามารถเข้าใจพระคัมภีร์ได้